ในการทำประกันรถยนต์นั้นเปรียบเสมือนการที่เจ้าของรถถ่ายโอนความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความเสียหายทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนให้กับบริษัทประกัน ซึ่งคนที่ขับรถยนต์ส่วนมากมักจะนิยมทำประกันรถยนต์กันแทบทั้งสิ้นเนื่องจากว่าหากเราไม่มีการทำประกันรถยนต์แล้วเกิดขับพลาดพลั้งเกิดอุบัติเหตุเราก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถทั้งสิ้นเองซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักมากพอสมควร ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงนิยมที่จะยอมจ่ายเงินก้อนหนึ่งครั้ง (ค่าเบี้ยประกันรถ) เพื่อแลกกับการคุ้มครองความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งปีนั่นเอง โดยปัจจุบันนี้ได้มีบริษัทประกันเกิดขึ้นมามากมายหลากเจ้าให้เจ้าของรถหรือลูกค้าเลือกซื้อ เรามาดูกันดีกว่าว่าในการเลือกซื้อประกันรถยนต์แต่ละครั้งนั้นเรามีวิธีเลือกซื้อ หรือมีวิธีเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละเจ้ากันอย่างไรบ้าง
วิธีการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์
ในการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์แต่ละครั้งเราจะต้องเลือกดูจากหลาย ๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์แต่ละที่ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรและแบบไหนดีกว่ากัน โดยเราสามารถเลือกซื้อประกันได้ดังนี้
- ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าเรามีความสนใจในการทำประกันแบบไหนเพราะประกันรถยนต์นั้นมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทนั้นก็จะมีราคาและความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป สมมติว่าเราต้องการซื้อประกันภัยชั้น 1 แสดงว่าเรารู้แล้วว่าเราต้องการทำประกันภัยที่คุ้มครองรถแทบทุกอย่าง
- จากนั้นเราก็ต้องไปไล่ดูว่ามีบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ไหนบ้างที่มีประกันภัยชั้น 1 เมื่อเราลิสรายชื่อบริษัทประกันมาได้แล้วเราก็ต้องมาทำการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ของแต่ละที่ว่า ความคุ้มครองและราคาแตกต่างกันมากมั้ย ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกบริษัทประกันที่มีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าและคุ้มครองมากกว่าหรือเท่ากับ
- นอกจากนี้เราก็ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับการบริการหลังการขายของแต่ละที่ ที่เราสนใจด้วยว่าเขาบริการลูกค้าดีหรือไม่ เพราะการบริการที่ดีนั้นสำคัญมาก ซึ่งในจุดนี้อาจจะดูทั้งการบริการและดูรีวิวการซ่อมหรือการเคลมในแต่ละครั้งด้วยว่าเราพึงพอใจแบบนี้หรือไม่
นอกจากที่กล่าวมานั้นยังมีวิธีในการเลือกซื้อประกันรถยนต์อีกมากมายขึ้นอยู่กับความชอบหรือความนิยมในแต่ละบุคคลซึ่งมักจะมีเกณฑ์ในการเลือกซื้อที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน
