การมีบ้านสวย ๆ ถือเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายต่อหลายคน การตกแต่งบ้านก็ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของเจ้าของบ้าน หลายคนจึงเลือกใช้บริการบริษัทตกแต่งภายใน ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความน่าไว้วางใจและมีความเป็นมืออาชีพมากพอ ใครที่กำลังมองหาบริการรับตกแต่งภายในอยู่ละก็ เรามีข้อควรระวังก่อนตัดสินเลือกใช้บริการการตกแต่งภายในมาฝาก
1. ระวังถูกหลอกจากพวกมิจฉาชีพ
ข้อนี้สำคัญมาก ยิ่งในช่วงนี้มีข่าวผู้รับเหมาและบริการเกี่ยวกับบ้านเทงานใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานระบาดหนัก การเลือกใช้บริษัทตกแต่งภายในจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีการแฝงตัวจากพวกมิจฉาชีพได้ บริษัทที่จะเลือกใช้บริการควรเป็นบริษัทที่มีสำนักงานเป็นของตัวเอง มีตำแหน่งที่ตั้งที่แน่นอน สามารถสอบถามข้อสงสัย หรือรูปแบบการให้บริการได้ ที่สำคัญบริษัทนั้น ๆ ควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจนเพื่อตกลงร่วมงานกัน และใช้เป็นหลักฐานรับรองความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการนั่นเอง
2. ระวังถูกหลอกว่าเป็นมืออาชีพ
บริษัทตกแต่งภายในหลายแห่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ และยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก เราควรดูผลงานที่ผ่านมาก่อนว่ามีแนวทางการทำงานอย่างไร หรืออาจดูจากการรีวิวของผู้จ้างงานคนอื่นที่เคยใช้บริการ หลายบริษัทมีการเผยแพร่ผลงานผ่านทางเว็บไซต์บริษัท สิ่งที่เราต้องดูจากผลงานเหล่านั้นก็คือ ความสวยงาม ความละเอียดในการทำงาน สไตล์การออกแบบของบริษัทว่าตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ สิ่งเหล่านี้คือการสะท้อนความเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้อย่าลืมศึกษาข้อมูลของบริษัทแบบละเอียด ระบบการทำงาน แหล่งที่มาของวัสดุที่นำมาใช้ตกแต่ง รวมถึงการจัดการระบบต่าง ๆ ภายในบริษัทด้วย
3. ระวังเรื่องระบบการว่าจ้าง
วัสดุและราคาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราต้องศึกษาและทำความตกลงกับบริษัทให้ชัดเจน ต้องศึกษาและเทียบราคาจากบริษัทตกแต่งภายในอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย โดยปกติค่าใช้จ่ายในการจ้างงานจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ คิดค่าก่อสร้างและงานตกแต่งภายในเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างไปตามฝีมือและชื่อเสียงของผู้ตกแต่งหรือมัณฑนากร รูปแบบที่สอง คือ การคิดแบบเหมาจ่าย เมื่อตกลงเรื่องจำนวนเงินได้แล้วจะมีการทำสัญญาว่าจ้าง และรูปแบบที่สาม คือ แบบผสมผสาน อาจว่าจ้างค่าก่อสร้างตกแต่งในรูปแบบเปอร์เซ็นต์หรืออาจเหมาจ่ายค่าออกแบบตกแต่งรวมกับค่าก่อสร้างเลยก็ได้ ข้อสำคัญก่อนการว่าจ้าง คือ เราต้องเตรียมข้อมูลที่บอกความต้องการของเราในด้านต่าง ๆ เช่น รสนิยม ความชอบ และหากมีงบประมาณจำกัดก็ควรบอกทันทีจะได้ไม่เกิดปัญหางบบานปลาย
4. ระวังการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ดีในราคาแพงกว่าราคามาตรฐาน
ข้อนี้เราอาจทำการตรวจสอบได้ลำบากหากไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ต้องดูจากการเลือกใช้วัสดุของบริษัทตกแต่งภายใน ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่แตกต่างกันไป แต่เราก็สามารถเช็คเบื้องต้นได้จาก ชนิด ประเภท และคุณภาพของวัสดุที่บริษัทเลือกใช้ ว่าเป็นแบรนด์ที่ดีหรือไม่ ข้อดีข้อของวัสดุ ก่อนตกลงเลือกใช้บริการ
5. ระวังโดนเทงาน
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าการเลือกบริษัทดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะบริษัทเหล่านี้จะทำงานแบบมืออาชีพ ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเทงานกลางคัน หรือถูกโกง ก่อนการว่าจ้างอย่าลืมตกลงกับบริษัทในเรื่องการรับประกันผลงานด้วย หากผลงานมีปัญหาหรือได้รับความเสียหาย บริษัทต้องเข้ามาดูแลช่วยแก้ไขให้จนสิ้นสุดงาน
การเลือกบริษัทตกแต่งภายในถือเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยาก ลูกค้าหลายคนประสบปัญหาการว่าจ้าง เนื่องจากได้รับผลงานที่ไม่ได้คุณภาพตามที่ตกลงกันไว้บ้าง เกิดปัญหางบบานปลายบ้าง หรือปัญหาโดนเทงานกลางคันบ้าง ดังนั้น จึงต้องวางแผนให้รอบคอบและชัดเจนก่อนติดต่อจ้างงาน จะได้ไม่เสียเวลา และเสียงเงินโดยไม่จำเป็น